- สเกลสำหรับการอ่านค่า ความต้านทาน
- สเกลสำหรับการอ่านค่าแรงไฟที่เป็นทั้งกระแสตรง และกระแสสลับมีค่าตัวเลขระหว่าง0 – 250
- สเกลสำหรับการอ่านค่าไฟกระแสตรงที่สามารถอ่านได้ทั้งค่าที่เป็นลบและเป็นบวก ระหว่าง 0 – (-25) และ 0 – (+25) โวลต์
- สเกลการอ่านค่าของอัตราการขยายของทรานซิสเตอร์
- สเกลสำหรับการอ่านค่าแรงไฟสำหรับการตรวจเช็คแบตเตอรี่ที่ไม่เกิน1.5V
- สเกลสำหรับการอ่านค่าของเสียง มีตัวเลขทางบวก ตั้งแต่ 0 –+(10) dB
การวัดแรงดันไฟ
การวัดแรงดันไฟ DC หรือไฟตรง
มีอยู่ 7 มาตร คือ มาตร DC 0.1V,0.5V,10V,50V,250V และ 1000V การวัดมีหลักการง่ายๆ...อยู่ว่า เมื่อตั้งมาตรวัดไฟ DC ที่มาตรใด สามารถวัดไฟได้ไม่เกินค่าตัวเลขของมาตรนั้น เช่น ตั้งมาตร DCV 10V สามารถวัดไฟได้ไม่เกิน 10V เป็นต้น การวัดไฟที่มีค่าสูงเกินมาตรที่ตั้งไว้จะทำให้มิเตอร์ของเราพังได้ ดังนั้นต้องตั้งมาตรให้สูงกว่าค่าแรงดันไฟที่จะวัดเสมอ ถ้าเราไม่ทราบว่าจุดที่วัดมีแรงดันไฟเท่าไร ก็ให้ตั้งมาตรสูงสุด คือ DCV 1000V ไว้ก่อน เพื่อป้องกันมิเตอร์พัง ถ้าวัดแล้วเข็มไม่ขึ้นหรือขึ้นเพียงเล็กน้อย อ่านค่าได้ไม่สะดวก จึงค่อยเปลี่ยนไปตั้งย่านที่ต่ำกว่าลงมาตามลำดับแล้วทดลองวัดจนสามารถอ่านค่าได้สะดวก
วิธีการวัด
1.เสียบสายวัดมิเตอร์ให้ถูกต้อง โดยเสียบสายวัดสีแดงที่แจ็ค + และสายวัดสีดำที่แจ็ค – com
2.หมุนปรับสวิทช์ย่านวัด DCV ตั้งย่านให้เหมาะสมและต้องสูงกว่าค่าที่จะวัดเสมอ
3.การวัดไฟ DC ต้องวัดให้ถูกขั้ว คือ สายวัดสีแดงต้องจับที่ขั้วไฟ + และสายวัดสีดำต้องจับที่ขั้วไฟ – ของจุดวัด การวัดผิดขั้วเข็มมิเตอร์ตีกลับจะทำให้มิเตอร์เสียหายได้
4.การอ่านค่า ถ้าตั้งมาตร 10V ให้อ่านค่าที่สเกลสีดำ ค่าตัวเลข 0-10 เข็มชี้ที่เลขใด ตัวเลขนั้นคือค่าแรงดันไฟของจุดวัด ถ้าตั้งมาตร 50V ดูที่ค่าตัวเลข 0-50 และถ้าตั้งมาตร 250V ดูที่ค่าตัวเลข 0-250 สำหรับมาตร 1000V ดูที่ค่าตัวเลข 0-10 ก็ได้ เพียงแต่เราต้องคูณค่าที่วัดได้ด้วย 100 จึงจะได้ค่าที่แท้จริง การอ่านค่าแบบนี้สามารถประยุกต์ใช้กับมาตรอื่นๆที่ค่าตัวเลขไม่ตรงตัว
การวัดไฟ AC หรือไฟกระแสสลับ
มีหลักการคล้ายกับการวัดไฟ DC แตกต่างกันตรงที่การวัดไฟ AC ไม่ต้องคำนึงถึงขั้วไฟสลับสายวัดได้เพราะว่าไฟ AC มันไหลได้ทั้งสองทิศทางไม่เหมือนไฟ DC ที่ไหลทิศทางเดียว ในการอ่านค่าให้ดูที่สเกลสีแดง


